Printers With Refillable Ink Tanks
สถานการณ์โลกมีการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างกันไปในแต่ละศตวรรษ แน่นอนว่าทักษะและการเรียนรู้ของมนุษย์ก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างสอดคล้องและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทักษะในศตวรรษที่ 21 ย่อมมีความแตกต่างจากศตวรรษที่ 20 และ 19 ซึ่งทักษะที่จำเป็นของคนในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 3R x 7C 3R ได้แก่ 1. Reading (อ่านออก) 2. (W)Riting (เขียนได้) 3.
ความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางอารมณ์ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ถูกพูดถึงครับ แต่ทว่าเรื่องนี้ก็ถือเป็นทักษะสำหรับอนาคตที่คุณจำเป็นต้องสร้างเช่นเดียวกัน การมีทักษะนี้ติดตัวจะทำให้คุณสามารถควบุมและจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ดี รวมไปถึงสามารถคาดเดาและเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นได้ด้วยเช่นกัน การมีทักษะด้านความฉลาดทางอารมณ์จะช่วยส่งเสริมให้คุณสามารถติดต่อประสานงานกับผู้อื่นได้ดี สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้ดีและช่วยเสริมสร้างการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพครับ 3. การคิดวิเคราะห์ ทักษะในด้านการคิดวิเคราะห์หมายถึงการใช้ตรรกะและเหตุผลในการวิเคราะห์สมมติฐานต่าง ๆโดยเชื่อมโยงข้อมูลทุกอย่างที่คุณมีในการวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าเราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ทักษะนี้จะทำให้คุณเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับ มองเห็นความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกันของข้อมูลในแต่ละชุดและสามารถนำข้อมูลที่ได้รับมาใช้ในการแก้ปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้คุณคิดเรื่องต่าง ๆอย่างเป็นเหตุเป็นผลและทำให้คุณสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 4. ความกระหายที่จะเรียนรู้ ทักษะในด้านนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแม่แบบของความก้าวหน้าในอาชีพครับ เพราะในอนาคตความรู้ วิทยาการและเทคโนโลยีต่าง ๆจะยิ่งก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆซึ่งรวมไปถึงวิธีการแก้ปัญหาที่อาจจะซับซ้อนและไม่เหมือนกับวิธีการที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบัน ผู้ใดที่หยุดที่จะเรียนรู้ในท้ายที่สุดพวกเขาก็จะตกเทรนด์และกลายเป็นผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในที่สุด ความกระหายที่จะเรียนรู้จะช่วยให้คุณพร้อมรับทักษะใหม่ ๆที่คุณอาจจะไม่ถนัดหรือไม่เคยรู้มาก่อนในขณะเดียวกันก็จะทำให้คุณอัปเดตทักษะเก่า ๆที่คุณรู้อยู่แล้วให้ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ทักษะในด้านนี้จึงมีความจำเป็นต่อความก้าวหน้าในอาชีพของคุณนั่นเอง 5.
ทำงานได้ผลดีในสภาพของความไม่ชัดเจน ไม่แน่นอนและในสภาพที่ลำดับความสำคัญของงานเปลี่ยนไป เป้าหมาย: จัดการเป้าหมายและเวลา 1. กำหนดเป้าหมายโดยมีเกณฑ์ความสำเร็จที่จับต้องได้ และที่จับต้องไม่ได้ 2. มีความสมดุลระหว่างเป้าหมายเชิงยุทธวิธี (tactical) ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น กับเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ (strategic) ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาว 3. ใช้เวลา และจัดการภาระงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมาย: ทำงานได้ด้วยตนเอง 1. ทำงานสำเร็จได้ด้วยตนเอง โดยกำหนดตัวงานเอง คอยติดตามผลงานเอง และกำหนดลำดับความสำคัญของงานเอง เป้าหมาย: เป็นผู้เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (self-directed learner) 1. นอกเหนือจากเรียนรู้ทักษะในงานของตนโดยตรงแล้วสามารถมองเห็นโอกาสเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อขยายความเชี่ยวชาญของตน 2. ริเริ่มการพัฒนาทักษะไปสู่ระดับมืออาชีพ 3. แสดงความเอาจริงเอาจังต่อการเรียนรู้ว่าเป็นกระบวนการที่ต้องทำตลอดชีวิต 4. สามารถทบทวน ใคร่ครวญ ประสบการณ์ในอดีต เพื่อใช้คิดหาทางพัฒนาในอนาคต เป้าหมาย: มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างเกิดผลดี 1. รู้ว่าเมื่อไรควรฟัง เมื่อไรควรพูด 2. แสดงพฤติกรรมอย่างมืออาชีพ และอย่างน่านับถือ เป้าหมาย: ทำงานในทีมที่แตกต่างหลากหลายอย่างได้ผลดี 1.
แสดงให้เห็นว่าการศึกษาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และต้องทำอย่างไรต่อไป ต้องใช้อะไร และยิ่งตอกย้ำอีกครั้งจากสถิติของการการจ้างงาน 33% นายจ้างที่รู้สึกว่าธุรกิจกำลังประสบความเสียหายอย่างร้ายแรงเพราะขาดแคลนผู้มีทักษะมาทำงาน 79% เยาวชนที่รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ถูกเตรียมตัวมาให้พร้อมสำหรับการทำงาน 27% นายจ้างไม่สามารถหาคนมาทำงานได้เพราะคนที่มาสมัครงานมีทักษะไม่เพียงพอ ตัวอย่างผลประเมินจากสิ่งต่างๆข้างต้น ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาไทยว่าไม่ได้ออกแบบมาสำหรับวิชาชีพต่างๆ เกิดมาอย่างไม่สอดคล้องกัน แม้จะมีการพัฒนาระบบEducationต่างๆ อันได้แก่ 1. 0 การป้อนความรู้ทางตรงจากครู ซึ่งไม่เพียงพอ โดยมีการนำความสามารถทางเทคโนโลยีมาปรับใช้ ก่อให้เกิด Education 2. 0 เป็นการเรียนรู้ผ่าน E-learning และต่อยอดเป็น 3. 0 การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ทั้งนี้ 3 รูปแบบดังกล่าว ก็ยังไม่เพียงพอต่อเยาวชนไทยในการสร้างความรู้และนวัตกรรม จึงได้ทบทวนและปรับปรุงเพิ่มเติมที่ Education 4.
ทักษะการตั้งคำถาม เพื่อทำให้ผู้เรียนสามารถกำหนดประเด็นปัญหาและหัดคิดตั้งปัญหาด้วยตนเองได้ 2. ทักษะการสอนให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาคำตอบด้วยตนเองโดยลงมือปฏิบัติได้ 3. ทักษะในการคัดเลือกความรู้ ตามสภาพแวดล้อมที่ทำได้จริง 4. ทักษะการสร้างความรู้และการตรวจสอบคุณภาพความรู้ 5. ทักษะการสอนให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์เพื่อได้ข้อสรุปหรือ ความคิดรวบยอด 6. ทักษะการสอนให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ความรู้ที่ได้ 7. ทักษะในการประเมินผล
มาดูทักษะที่สำคัญในการใช้ชีวิตและทำงานในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ 1. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม คิดสร้างสรรค์ ใส่ใจนวัตกรรม มีวิจารณญาณ แก้ปัญหาเป็น สื่อสารดี เต็มใจร่วมมือ 2. ทักษะสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี อัพเดตทุกข้อมูลข่าวสาร รู้เท่าทันสื่อ รอบรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ ฉลาดสื่อสาร 3. ทักษะชีวิตและอาชีพ มีความยืดหยุ่น รู้จักปรับตัว ริเริ่มสิ่งใหม่ ใส่ใจดูแลตัวเอง รู้จักเข้าสังคม เรียนรู้วัฒนธรรม มีความเป็นผู้นำ รับผิดชอบหน้าที่ พัฒนาอาชีพ หมั่นหาความรู้รอบด้าน ขอบคุณข้อมูล หนังสือรวมมิตร คิดเรื่องการเรียนรู้ โดยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ สบร.
ทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 นอกเหนือจากการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทักษะที่ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึง คือ การสนุกกับการแก้ไขปัญหา จะดีมากหากสามารถที่จะพัฒนาเด็กไทยให้รองรับกับการแก้ไขปัญหาได้ แนวคิดของ OECD (องค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ) หัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติอยู่ดีและแข็งแรง ในการที่จะทำให้ประเทศนั้นๆ มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนประเทศนั้นควรมีขีดความสามารถอย่างไร?
0, knowledge festival, มหกรรมความรู้, กระตุกต่อมคิด