Printers With Refillable Ink Tanks
ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช. ) จัดรายการพูดคุยผ่านช่องทางออนไลน์ ในรายการ Future Talk by NXPO ครั้งที่ 9 ในประเด็น "ปั้น Future Mobility ฝีมือคนไทยสู่เชิงพาณิชย์" พร้อมพูดคุยถึงความสำเร็จในการสร้าง "ต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบาโดยคนไทย" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการอุดมศึกษา และภาคเอกชน ที่สามารถต่อยอดไปสู่การผลิตขบวนรถไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่นได้ โดยรายการในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รศ. ดร. สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข. ) ดร. ไพวรรณ เกิดตรวจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร. อีสาน) วิทยาเขตขอนแก่น และหัวหน้าโครงการวิจัย โครงการระบบรถไฟฟ้ารางเบา และนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) มาร่วมพูดคุย ดำเนินรายการโดย ดร. กาญจนา วานิชกร รองผู้อำนวยการ สอวช. ดร. สิรี เปิดเผยถึงการให้ทุนด้านยานยนต์แห่งอนาคตของ บพข. ที่มองว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีพื้นฐานและมีศักยภาพ แต่ในขณะเดียวก็มองเห็นโอกาสที่จะถูกแทรกแซงได้ในอนาคต หากไม่ริเริ่มลงทุนในด้านนี้ อาจทำให้อุตสาหกรรมนี้ไม่เกิดความยั่งยืน อีกทั้งแนวโน้มการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ บพข.
1 กิโลเมตร ผลการศึกษาเบื้องต้นประเมิน วงเงินลงทุนอยู่ที่ 48, 386 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 7, 254 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 20, 864 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานระบบ 19, 013 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาโครงการ 1, 255 ล้านบาท โดย โมโนเรลสายสีน้ำตาล จะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้า 7 สาย ประกอบด้วย สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีชมพู สถานีบางเขนเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีแยกเกษตรเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีฉลองรัชเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีลำสาลีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีส้ม เบื้องต้น รฟม. คาดการณ์ว่าปีแรกของการเปิดให้บริการ จะมีปริมาณผู้โดยสารราว 2. 18 แสนคนเที่ยวต่อวัน ชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม. ) เปิดเผยด้วยว่า กทม. อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวก และเติมเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ให้สมบูรณ์ และครอบคลุมมากขึ้น โดยโมโนเรลสายนี้อยู่ในแผนแม่บทพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้า ภายใต้ชื่อโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16. 3 กิโลเมตร เป็น โครงข่ายที่จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 5 สาย ได้แก่ สายสีชมพู ที่สถานีวัชรพล, สายสีน้ำตาล ที่สถานีคลองลำเจียก, สายสีเหลือง ที่สถานีฉลองรัช, สายสีส้ม ที่สถานีพระราม 9 และสายสีเขียว ที่สถานีทองหล่อ อย่างไรก็ดี ตามแผนดำเนินงานคาดว่าจะ จัดทำรายงานผลการศึกษา และวิเคราะห์โครงการ ตลอดจนรูปแบบการลงทุน แล้วเสร็จประมาณเดือน พ.
ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ ระบบตั๋วร่วม โดยจะสามารถเปิดให้บริการระบบตั๋วร่วม EMV contactless ในรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลและสายฉลองรัชธรรมอย่างเป็นทางการได้ภายในปี 2565 ข่าวที่น่าสนใจ
ไพวรรณ กล่าวว่า ในมุมมองของภาควิชาการ จะคุ้นชินกับการทำวิจัย และจบด้วยการนำผลงานไปตีพิมพ์ แต่โครงการวิจัยนี้ได้เริ่มตั้งแต่การวิจัยชิ้นส่วนต่างๆ มีการฝึกอบรมที่ทำให้ได้เห็นชิ้นส่วน และโครงสร้างรถจริง เป็นสิ่งที่สถาบันการศึกษาต้องปรับตัวจากการมองเพียงในมุม University-Based ให้หันมามองในส่วน Product-Based มากขึ้น และภาคการศึกษาจะต้องมองความเชื่อมโยงในการนำงานวิจัยที่ตีพิมพ์ออกมา เมื่อเกิดองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยแล้ว จะต้องต่อยอดไปถึงภาคเอกชนให้ได้ด้วย ในส่วนบทบาทของ สอวช. นั้น ดร. กาญจนา กล่าวว่า สอวช. กำลังขับเคลื่อนการปลดล็อก และเพิ่มการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลงานวิจัยด้วยเช่นกัน อาทิ ปลดล็อกการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย แนวทางนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ส่งเสริมให้เกิดพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ. ศ. 2564 รวมถึงการปลดล็อกให้อาจารย์ได้ไปทำงานกับภาคเอกชน และปลดล็อกเรื่องการขอเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ โดยใช้ผลงานงานวิจัยนวัตกรรมที่ทำร่วมกับภาคเอกชนหรือชุมชนด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจชมตัวอย่างต้นแบบรถไฟฟ้ารางเบาที่ผลิตโดยคนไทย สามารถเข้าชม ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 ณ ห้องประชุม Challenger Impact บูทเลขที่ A22/2 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 รับชมรายการ Future Talk by NXPO ครั้งที่ 9 ผ่านทาง
ค. นี้ เพื่อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา ก่อนเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร. ) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) ใช้เวลาในขั้นตอนเหล่านี้ราว 8-9 เดือน ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) พิจารณาเห็นชอบในปี 2566 หลังจากนั้นปี 2567 - 2568 จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมทุน ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เป้าหมายเปิดบริการปี 2573 สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ประเมินวงเงินลงทุนเบื้องต้นราว 2. 78 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าตอบแทนและการชดเชยการใช้ที่ดิน 2. 05 พันล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา-งานระบบรถไฟฟ้า-งานจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้า 2. 31 หมื่นล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านสิ่งแวดล้อม 100 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาควบคุมงาน 836 ล้านบาท ค่าออกแบบ 462 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายสำรอง 1. 32 พันล้านบาท โดยจากผลการศึกษาประมาณการณ์อัตราผลตอบแทนภายในทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) อยู่ที่ 19. 75% ระยะเวลาคืนทุน 29 ปี ระยะเวลาสัมปทานอยู่ระหว่างพิจารณาในช่วง 30-50 ปี ซึ่งคาดการณ์ว่าในปีแรกที่เปิดให้บริการ จะมีผู้โดยสาร 9. 7 หมื่นคนเที่ยวต่อวัน รายได้ประมาณ 2. 6 ล้านบาทต่อวัน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2577 คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสาร 1.