Printers With Refillable Ink Tanks
ศ. 1583 ก็ได้มีการสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นทดแทน ผู้ที่สร้างอย่างท่านโทโยมิ ฮิเดะโยชินั้นมีเจตนาให้เป็นดังศูนย์กลางแห้งใหญ่ของญี่ปุ่น จนกลายเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในขณะนั้นเลยนะคะ แต่หลังจากที่ท่านโทโยมิ ฮิเดะโยชิเสียชีวิตลงไม่นาน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจากการโดนโจมตีจากโทคุกาว่า แม้จะมีการปรับปรุงสร้างใหม่ในปีค.
1620 โทะกุงะวะ ฮิเดะตะดะ โชกุนคนที่ 2 แห่ง ตระกูลโทะกุงะวะ เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซะกะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระกูลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจาก ทะเลเซะโตะใน และสลักยอดด้วยชื่อของตระกูลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้ ในปี ค. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ในปี ค. 1868 ปราสาทโอซะกะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลบะกุฟุ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัย การปฏิรูปเมจิ ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก ในปี ค. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซะกะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก ในช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60, 000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซะกะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.
2540 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากะ ประวัติ [ แก้] ในปี ค. 1583 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะที่บริเวณวัดอิชิยามะฮงกัน โดยนำแบบผังมาจาก ปราสาทอาซูจิ อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักของ โอดะ โนบูนางะ โทโยโตมิต้องการจะสร้างให้เหมือนกับปราสาทอาซูจิ แต่สุดท้ายแล้วกลับโดดเด่นกว่า โดยหอคอยหลักมี 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น มีใบไม้ทองที่ด้านข้างของปราสาท ทำให้ตัวปราสาทสวยงามโดดเด่นประทับใจผู้พบเห็น ในปี ค. 1585 เมื่อตัวปราสาทแล้วเสร็จ โทโยโตมิจึงเริ่มแผนขยายตัวปราสาทเพิ่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก จนประทั่งในปี ค. 1597 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จและฮิเดโยชิได้เสียชีวิตลง ตัวปราสาทจึงตกเป็นของบุตรของฮิเดโยชิ คือ โทโยโตมิ ฮิเดโยริ ในปี ค. 1600 โทกูงาวะ อิเอยาซุ ปราบศัตรูลงได้ใน ยุทธการที่เซกิงาฮาระ และเริ่มจัดตั้ง รัฐบาลเอโดะ ในปี ค. 1614 โทกูงาวะเริ่มโจมตีกองกำลังของฮิเดโยริในช่วงหน้าหนาวจนเข้าสู่ยุทธการ การล้อมโอซากะ [2] แม้กองกำลังของโทโยโตมิมีจะน้อยกว่ากองกำลังของโทกูงาวะเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ก็สามารถต้านทานทัพ 200, 000 นายของโทกูงาวะและรักษากำแพงเมืองเอาไว้ได้ ในช่วงฤดูร้อนปี ค.
มหาวิหารวาเวล (Wawel Cathedral) โปแลนด์ดินแดนแห่งความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมจริง ๆ อีกหนึ่งสถานที่อลังการอย่างมหาวิหารวาเวลการก่อสร้างแบบโกธิก ม หาวิหารแห่งนี้ ในสมัยก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ และยังเป็นสถานที่สำหรับฝังศพของกษัตริย์ ขุนนาง ผู้นำทางศาสนา รวมถึงวีรบุรุษ เปลี่ยนแนวการเที่ยวกันบ้าง นอกจากเมือง ปราสาท วิหารแล้ว อย่างที่รู้กันว่าโปแลนด์คือแหล่งรวมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มากมาย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดสถานที่อย่าง 4.