Printers With Refillable Ink Tanks
ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัส ต่อฮาร์ดไดรฟ์ เข้ากับ Windows PC เครื่องอื่น จากนั้นใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสสแกนอุปกรณ์นั้น บางครั้งไวรัสหรือมัลแวร์อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ดังนั้นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอาจจะสามารถซ่อมฮาร์ดไดรฟ์ ให้ใช้งานได้อีกครั้ง 2. ตรวจสอบและซ่อมปัญหา ฮาร์ดดิสก์ บน Windows 10/8/7 ลองใช้เครื่องมือของ Windows ในการตรวจสอบและซ่อมฮาร์ดดิสก์ บน Windows 10, 8, 7 เพื่อกู้ข้อมูลของคุณ: ขั้นตอนที่ 1. เปิด "คอมพิวเตอร์เครื่องนี้" คลิกขวาที่ ฮาร์ดดิสก์หรือพาร์ทิชัน ที่ต้องการจากนั้นคลิก "คุณสมบัติ" ขั้นตอนที่ 2. เลือก "เครื่องมือ" แล้วคลิก "ตรวจสอบ" ในส่วนการตรวจสอบข้อผิดพลาด ขั้นตอนที่ 3. เลือกตัวเลือกที่ต้องการในหน้าต่าง ตรวจสอบตัวเลือกดิสก์ เพื่อตรวจสอบและซ่อมฮาร์ดดิสก์ ขั้นตอนที่ 4. เลือกตัวเลือก "แก้ไขข้อผิดพลาดของระบบไฟล์โดยอัตโนมัติ" และ "สแกนหาและพยายามกู้คืนเซกเตอร์เสีย" จากนั้นคลิก "เริ่ม" หากต้องการสแกนเพียงอย่างเดียวคลิก " เริ่ม " หากต้องการแก้ไขปัญหาโดยไม่สแกนพื้นที่หา เซกเตอร์เสีย เลือก "แก้ไขข้อผิดพลาดของระบบไฟล์โดยอัตโนมัติ" จากนั้นคลิก " เริ่ม " หากต้องการแก้ไขปัญหา สแกนหา เซกเตอร์เสีย และกู้ข้อมูลคลิก "สแกนหาและพยายามกู้คืนเซกเตอร์เสีย" คลิก " เริ่ม " เมื่อขั้นตอนการซ่อมเสร็จสิ้น ฮาร์ดดิสก์ หรือ partition ของคุณจะใช้งานได้ปกติ จากนั้นคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เซฟไว้บนฮาร์ดไดรฟ์ ได้ 3.
ไฟดับบ่อยๆ ไม่ดีกับฮาร์ดดิสก์: เครื่องคอมพ์ที่ไม่มี UPS มีโอกาสเสี่ยงที่อุปกรณ์ภายในจะเสียหายเร็วขึ้นถ้าหากมีไฟดับบ่อย ๆ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์นั้น เวลาที่ไฟฟ้าดับอย่างรวดเร็วหัวอ่านข้างในอาจจะยังไม่กลับสู่บริเวณที่ปลอดภัย หรือบางทีหัวอ่านอาจจะไปกระแทกกับแผ่นจานในช่วงที่ไฟฟ้ากระชากขึ้นมาทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ นอกจากนี้หากไฟตกบ่อย ๆ แล้วดับลงก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะฮาร์ดดิสก์จะพยายามทำงานตามหน้าที่หากมีกำลังไฟเพียงพอ แต่ถ้าในระหว่างนั้นไฟค่อยๆ ตกลงและดับไป ตำแหน่งของหัวอ่านจะยังไม่กลับที่เดิมแน่ ดังนั้น ควรติดตั้ง UPS ไว้จะปลอดภัยทั้งฮาร์ดดิสก์เองและอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยเช่นกัน 3.
และมีความเร็วในการบันทึกข้อมูลที่สูงกว่าฮาร์ดดิกส์ปกติ ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เครื่องบันทึกภาพถึงต้องใช้ฮาร์ดดิกส์สำหรับกล้องวงจรปิด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าฮาร์ดดิสก์แบบไหนดีที่สำหรับกล้องวงจรปิด??
เผยแพร่: 5 ก. ค. 2550 10:25 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ ว่ากันว่าผู้ใช้บางท่านรู้สึกแย่มาก ๆ ที่อยู่ดี ๆ ฮาร์ดดิสก์สุดที่รักก็จากไปอย่างไม่หวนคืน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นมันมีสัญญาณเตือนให้ทราบอยู่ตลอดเวลา แต่ก็หาได้สังเกตไม่ ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีนิสัยรักการแบ็คอัพ ประเภทรักเดียวใจเดียวไม่สำรองข้อมูลไว้ที่อื่นกันบ้างเลย ประเด็นที่อยากจะเตือนผู้ใช้ก็คือ อย่ามั่นใจเทคโนโลยีมากเกินไป ควรสังเกตสังกามันบ้าง ต่อไปนี้คือ ลางบอกเหตุสำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ใกล้ตาย ซึ่งมีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน อ่านเรื่องนี้จบแล้วลองพิจารณาดูด้วยนะครับว่า ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อยู่มีอาการตามนี้บ้างหรือไม่ 1. เสียงดังติ๊กๆ อย่านึกว่าเป็นเข็มนาฬิกา: ฮาร์ดดิสก์ทุกตัวในโลกนี้ไม่เคยติดตั้งนาฬิกาปลุกไว้ข้างใน และถ้ามันเป็นปกติดีก็ไม่ควรจะมีเสียงดังติ๊กๆ ให้ชวนระทึกขวัญด้วย เสียงดังที่ว่านี้ ถ้าจะให้พิจารณากันอย่างละเอียดคุณต้องเอาหูแนบกับฮาร์ดดิสก์ว่าเสียงมาจากส่วนใด เพราะการวิเคราะห์หาสาเหตุจะทำได้ตรงจุดจริง ๆ ถ้าเสียงมาจากตรงกลางให้สันนิษฐานว่ามาจากชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ที่อาจเกิดความผิดพลาดหรือชำรุดขึ้น แต่ถ้าเสียงดังมาจากรอบ ๆ นอกในรัศมีของกล่องฮาร์ดดิสก์ ให้สันนิษฐานว่าปัญหามาจากหัวอ่านติดขัด ซึ่งอาจจะกำลังเคาะกับแผ่นจานอยู่ก็เป็นได้ ตรงนี้อันตรายมากเพราะทำให้ข้อมูลเสียหายได้ทั้งลูกเลย 2.
ใช้ SFC สแกนอุปกรณ์ คำสั่ง SFC Scannow เป็นหนึ่งในตัวเลือกเฉพาะของชุดคำสั่ง SFC ซึ่งสามารถซ่อมไฟล์ระบบปฏิบัติการ Windows ที่อาจสูญหายและทำให้เกิดไดรฟ์เสียหายได้ ขั้นตอนที่ 1. เปิดหน้าต่าง Command Prompt ขั้นตอนที่ 2. พิมพ์ sfc /scannow ในหน้าต่าง Command Prompt แล้วกด "Enter" บนคีย์บอร์ด หากอุปกรณ์เป็นไดรฟ์ พกพา พิมพ์ SFC /SCANNOW /OFFBOOTDIR=c:\ /OFFWINDIR=c:\windows โดยเปลี่ยน c: เป็นตัวอักษรของฮาร์ดไดรฟ์ รอการสแกนเสร็จสิ้นจากนั้น restart เครื่อง แล้วตรวจสอบว่าสามารถใช้งานฮาร์ดไดรฟ์ ได้หรือไม่ 4.
เปิด EaseUS Partition Master บนคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นคลิกขวาที่พาร์ติชัน ที่ต้องการตรวจสอบ แล้วเลือก "Check File System"(ตรวจสอบระบบไฟล์) ขั้นตอนที่ 2. ในหน้าต่างตรวจสอบระบบไฟล์ เลือก "Try to fix errors if found"(พยายามแก้ไขข้อผิดพลาดหากพบ) แล้วคลิก "Start"(เริ่ม) ขั้นตอนที่ 3. โปรแกรมจะเริ่มตรวจสอบระบบไฟล์พาร์ติชันบนดิสก์ของคุณ เมื่อการสแกนเสร็จสิ้นคลิก "Finish"(เสร็จสิ้น) 5. ใช้เครื่องมือกู้ข้อมูลแล้ว ฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ หากวิธีข้างต้นไม่สามารถซ่อมฮาร์ดไดรฟ์ ของคุณได้ และยังเป็น RAW แสดงว่าอุปกรณ์มีความเสียหายมาก คุณจึงควร ฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์ โดยใช้โปรแกรมกู้ข้อมูล EaseUS Data Recovery Wizard เพื่อกู้ไฟล์จากฮาร์ดดิสก์ที่เสียหาย, กู้ข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกฟอร์แมต, หรือกู้ข้อมูลจากพาร์ติชั่นที่ถูกลบก่อนที่คุณจะทำการ ฟอร์แมตอุปกรณ์ ถึงแม้ว่า Windows จะไม่สามารถใช้งานเสียหายฮาร์ดไดรฟ์ ได้ โปรแกรมนี้ก็ยังรองรับการกู้ข้อมูลจากเสียหาย(RAW)ฮาร์ดไดรฟ์ ดาวน์โหลดโปรแกรมกู้ข้อมูลฮาร์ดไดรฟ์ แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อ กู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์ที่สูญหาย ขั้นตอนที่ 1. ขั้นตอนที่ 1 เรียกใช้ EaseUS Data Recovery Wizard และเลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หรือฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกที่มีไฟล์สูญหายหรือถูกลบ คลิก "Scan" เพื่อเริ่มสแกนข้อมูลและไฟล์ที่สูญหาย ขั้นตอนที่ 2.
Assign Drive Letter or Path คลิกปุ่ม Next 7. Format Partition และก็คลิกปุ่ม Next 8. สุดท้ายคลิกปุ่ม Finish แล้วจากนั้นก็รอสักครู่ระบบจะทำการ Format ข้อมูลในฮาร์ดดิสใหม่ แล้วก็จะสร้างไดรฟ์ขึ้นใหม่ โดยตรวจสอบที่หน้า This PC จะแสดง Local Disk ใหม่ขึ้นมาแล้วครับ เสร็จขั้นตอนการตั้งค่าสำหรับเพิ่มดิสใหม่ในเครื่องแล้วครับ ซึ่งตั้งค่าแค่เพียงครั้งแรกเท่านั้น หลังจากนี้ฮาร์ดดิสตัวใหม่นี้หากนำไปเชื่อมต่อคอมฯเครื่องใหม่ ก็จะแสดงไดรฟ์ขึ้นมาให้ใช้งานได้ทันที เขียนบทความเกี่ยวกับ Windows, MS. Office และ Software อื่นๆ แนะนำการใช้งาน การตั้งค่าเบื้องต้น ทิปต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆ ท่าน และหากมีส่วนไหนผิดตกบกพร่อง ติชมชี้แนะได้ที่ Comment ด้านล่างได้ครับ
ฮาร์ดดิสก์ตีกลอง: สำหรับอาการที่ว่านี้มีความแตกต่างจากข้อที่ 1 โดยสิ้นเชิง ถ้าคุณได้ยิ้นเสียงรัวกลองดังกึกก้องมาจากฮาร์ดดิสก์ และไม่ยอมหยุดซักที อาการแบบนี้บอกได้อย่างเดียวว่ามันจะขอลาแล้วละครับ เสียงดังที่คล้ายกับการตีกลองนั้นมาจากหัวอ่านไปกระทบกับจานอย่างจัง หรือแม้แต่หัวอ่านเลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งล็อก จนไปกระกบกับแผ่นจาน ถ้าเป็นแบบนี้ข้อมูลทั้งหมดในอาร์ดดิสก์อาจได้รับความเสียหายจนถึงขั้นกู้ไม่ได้เลย ดังนั้น ถ้าเสียงกลองเพิ่งเริ่มรัวให้คุณรีบพาฮาร์ดดิสก์ไปซ่อมด่วนเลยนะครับ! 8. สแกนดิสก์ไม่ผ่าน: การตรวจสุขภาพฮาร์ดดิสก์ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ สแกนมันให้ทั่วทั้งจาน ไม่ว่าคุณจะใช้บริการจากยูทิลิตีบนวินโดวส์เอง หรือโปรแกรมจากเธิร์ดพาร์ตี้ก็ตาม หากสแกนไม่ตลอดรอดฝั่งแล้วละก็ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้เลยว่าฮาร์ดดิสก์กำลังมีปัญหาเกิดขึ้น สาเหตุก็มีทั้งโครงสร้าง FAT เสียหาย รวมถึงตารางพาร์ทิชันที่อาจเสียหายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ หากฮาร์ดดิสก์มีแบดเซกเตอร์ ตรงจุดสำคัญๆ ก็จะส่งผลให้การสแกนฮาร์ดดิสก์ตรงตำแหน่งพื้นที่นั้นๆ ไม่ผ่านด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ค้างนิ่งไปเลยก็มีให้เห็นด้วย 9.
สแกนเพื่อค้นหาข้อมูลฮาร์ดไดรฟ์ที่สูญหายทั้งหมด EaseUS จะสแกนไดรฟ์ที่เลือกและค้นหาไฟล์ที่สูญหายทั้งหมด รวมถึงข้อมูลที่มีและข้อมูลที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด ขั้นตอนที่ 3. ดูตัวอย่างและกู้คืนข้อมูลและไฟล์ในฮาร์ดไดรฟ์ที่สูญหาย หลังจากดูตัวอย่างแล้ว โปรดเลือกไฟล์ที่ต้องการซึ่งสูญหายในไดรฟ์ และคลิก "Recover"(กู้คืน) เพื่อบันทึกไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัยบนพีซีของคุณ หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอื่น วิธีฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์เพื่อซ่อม หลังจากการกู้ข้อมูลจาก เสียหายฮาร์ดไดรฟ์ คุณสามารถสั่ง ฟอร์แมตได้จาก การจัดการดิสก์ เพื่อซ่อมฮาร์ดดิสก์ แล้วเก็บข้อมูลบนไดรฟ์ อีกครั้ง ขั้นตอนที่ 1. คลิกขวาที่ "พีซีเครื่องนี้" แล้วเลือก "จัดการ" ขั้นตอนที่ 2. ไปที่ "การจัดการดิสก์" ขั้นตอนที่ 3. คลิกขวาเลือกฮาร์ดไดรฟ์พาร์ติชั่นที่ต้องการแล้วคลิก "ฟอร์แมต" ขั้นตอนที่ 4. เลือกชื่อที่ต้องการและระบบไฟล์ จากนั้นคลิก "ตกลง" เพื่อ ฟอร์แมตไดรฟ์ วิธีป้องกันปัญหาฮาร์ดไดรฟ์เสียหาย และข้อมูลสูญหาย คุณจะสามารถป้องกันปัญหา ฮาร์ดดิสก์เสียหาย และป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณสูญหายบน Windows 10/8/7 ได้อย่างไร?
วิธีกู้คืนข้อมูล HDD - เนื้อหาในหน้านี้ ส่วนที่ 1. สาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหาบนฮาร์ดไดรฟ์ ส่วนที่ 2. วิธีซ่อมฮาร์ดดิสก์ ด้วยโปรแกรมซ่อมฮาร์ดไดรฟ์ฟรี ส่วนที่ 3. วิธีป้องกันฮาร์ดไดรฟ์เสียหาย และปัญหาข้อมูลสูญหาย ส่วนที่ 4.